แนวข้อสอบพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๑
- พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551 ให้ไว้ ณ วันที่เท่าใด
ก. ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ค. ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
ข. ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ง. ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
ตอบ ก. ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑
- ใครเป็นผู้รักษาการตามพ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551
ก. นายกรัฐมนตรี ค. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ง. ผู้ที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
- พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551 มีกี่หมวด กี่มาตรา กี่บทเฉพาะกาล
ก. 5 หมวด 63 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล ค. 6 หมวด 63 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ข. 5 หมวด 65 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล ง. 6 หมวด 65 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ตอบ ค. 6 หมวด 63 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
- ใครเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการในพ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551
ก. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ค. นายสมัคร สุนทรเวช
ข. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ง. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
ตอบ ง. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
- ข้อใดคือเหตุผลในการประกาศใช้พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551
ก. กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติได้บัญญัติให้มีคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพื่อควบคุมดูแลการจัดการอาชีวศึกษา
ข. กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติได้บัญญัติให้มีการดำเนินการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการอาชีวศึกษา
ค. ให้มีการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในทุกระดับมีคุณภาพและประสิทธิภาพเกิดผลสำเร็จแก่ประชาชนโดยเฉพาะนักเรียนและนักศึกษา เป็นการสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- “การอาชีวศึกษา” หมายความว่าอย่างไร
ก. กระบวนการศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในด้านวิชาชีพระดับฝีมือ
ข. กระบวนการศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในด้านวิชาชีพระดับเทคนิค
ค. กระบวนการศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในด้านวิชาชีพระดับเทคโนโลยี
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- การจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ มีกี่รูปแบบ
ก. รูปแบบเดียว ค. 3 รูปแบบ
ข. 2 รูปแบบ ง. 4 รูปแบบ
ตอบ ค. 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. การศึกษาในระบบ 2. การศึกษานอกระบบ 3. การศึกษาระบบทวิภาคี
- การจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพต้องเป็นการจัดการศึกษาในด้านวิชาชีพที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติ ได้ถูกกล่าวไว้ในมาตราใดของพ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551
ก. มาตรา 6 ค. มาตรา 12
ข. มาตรา 10 ง. มาตรา 7
ตอบ ก. มาตรา 6
- ข้อใด ไม่ใช่ รูปแบบการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ
ก. การศึกษาในระบบ ค. การศึกษาตลอดชีวิต
ข. การศึกษานอกระบบ ง. การศึกษาระบบทวิภาคี
ตอบ ค. การศึกษาตลอดชีวิต
- การจัดการศึกษาวิชาชีพที่เน้นการศึกษาในสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันเป็นหลัก โดยมีการกำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาการวัดและการประเมินผลที่เป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน คือ
ก. การศึกษาในระบบ ค. การศึกษาตลอดชีวิต
ข. การศึกษานอกระบบ ง. การศึกษาระบบทวิภาคี
ตอบ ก. การศึกษาในระบบ
- การจัดการศึกษาวิชาชีพที่มีความยืดหยุ่นในการกำหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการศึกษา ระยะเวลา การวัดและการประเมินผลที่เป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของบุคคลแต่ละกลุ่ม คือ
ก. การศึกษาในระบบ ค. การศึกษาตลอดชีวิต
ข. การศึกษานอกระบบ ง. การศึกษาระบบทวิภาคี
ตอบ ข.การศึกษานอกระบบ
- การจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่างสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันกับสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ ในเรื่องการจัดหลักสูตร การเรียนการสอน การวัดและการประเมินผล โดยผู้เรียนใช้เวลาส่วนหนึ่งในสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบัน และเรียนภาคปฏิบัติในสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ คือ
ก. การศึกษาในระบบ ค. การศึกษาตลอดชีวิต
ข. การศึกษานอกระบบ ง. การศึกษาระบบทวิภาคี
ตอบ ง. การศึกษาระบบทวิภาคี
- ข้อใดคือหลักสูตรที่คณะกรรมการการอาชีวศึกษากำหนดในการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ
ก. ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ค. ปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ
ข. ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ
ก. การมีเอกภาพด้านนโยบายและมีความหลากหลายในทางปฏิบัติโดยมีการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่สถานศึกษาอาชีวศึกษาและสถาบัน
ข. การศึกษาในด้านวิชาชีพสำหรับประชาชนวัยเรียนและวัยทำงานตามความถนัดและความสนใจอย่างทั่วถึงและต่อเนื่องจนถึงระดับปริญญาตรี
ค. การศึกษาที่มีความแน่นอน และมีระบบเทียบโอนผลการเรียนและระบบเทียบประสบการณ์การทำงานของบุคคลเพื่อเข้ารับการศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
ง. การมีระบบการพัฒนาครูและคณาจารย์ของการอาชีวศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
ตอบ ค. การศึกษาที่มีความแน่นอน และมีระบบเทียบโอนผลการเรียนและระบบเทียบประสบการณ์การทำงานของบุคคลเพื่อเข้ารับการศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
(ที่ถูก คือ การศึกษาที่มีความยืดหยุ่น หลากหลาย และมีระบบเทียบโอนผลการเรียนและระบบเทียบประสบการณ์การทำงานของบุคคลเพื่อเข้ารับการศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง)
- คณะกรรมการการอาชีวศึกษามีอำนาจหน้าที่อย่างไร
ก. พิจารณาเสนอแนะนโยบาย เป้าหมายการผลิตและแผนการพัฒนากำลังคนด้านวิชาชีพต่อรัฐมนตรี
ข. กำหนดหลักเกณฑ์ในการรับเข้าสมทบ การยกเลิกการสมทบ และการควบคุมดูแลสถานศึกษาอื่นหรือสถานประกอบการ
ค. ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ และดูแลระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบันหรือสถานประกอบการเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการอาชีวศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๑ นอกจากอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติและกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ให้คณะกรรมการการอาชีวศึกษามีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) พิจารณาเสนอแนะนโยบาย เป้าหมายการผลิตและแผนการพัฒนากำลังคนด้านวิชาชีพต่อรัฐมนตรี
(๒) กำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้ง การรวม และการแยกสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันตามมาตรา ๑๓ และมาตรา ๑๔
(๓) กำหนดหลักเกณฑ์ในการรับเข้าสมทบ การยกเลิกการสมทบ และการควบคุมดูแลสถานศึกษาอื่นหรือสถานประกอบการ
(๔) กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับลักษณะของสถานประกอบการที่จะเข้าร่วมจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ หลักสูตรการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในสถานประกอบการ ตลอดจนหลักเกณฑ์การฝึกงาน และการเทียบโอนผลการเรียนหรือประสบการณ์ทำงานในสถานประกอบการ เพื่อขอรับคุณวุฒิการศึกษาจากสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบัน
(๕) กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำกับดูแลและการให้การรับรองมาตรฐานสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบัน และสถานประกอบการให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติ
(๖) กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการได้รับสิทธิประโยชน์และการเชิดชูเกียรติแก่สถานประกอบการ สมาคมวิชาชีพ หรือองค์กรอื่น ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือในการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพระหว่างสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบัน และสถานประกอบการ
(๗) กำหนดหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้ง การทดสอบ การฝึกอบรมและการออกใบรับรองการเป็นครูฝึกในสถานประกอบการตามมาตรา ๕๕
(๘) เสนอแนะเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณและการกำหนดนโยบายในการระดมทุนทรัพยากร รายได้ หรือการจัดตั้งกองทุนอื่นต่อรัฐมนตรี
(๙) ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ และดูแลระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบันหรือสถานประกอบการเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการอาชีวศึกษา
(๑๐) แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดเพื่อกระทำการใดอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
(๑๑) ออกข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
(๑๒) ปฏิบัติการอื่นตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย
- สถานศึกษาอาชีวศึกษาสามารถรวมกันเป็นสถาบันได้ อยู่ในมาตราใดของพ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551
ก. มาตรา 6 ค. มาตรา 12
ข. มาตรา 13 ง. มาตรา 18
ตอบ ข. มาตรา 13
- การรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาเพื่อจัดตั้งเป็นสถาบันให้กระทำได้อย่างไร
ก. โดยคำแนะนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. โดยคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ค. โดยคำแนะนำของสภาการศึกษา
ง. โดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ตอบ ง. โดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
- การจัดตั้งสถาบันเพื่อดำเนินการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ กระทำได้โดยใช้กฎหมายใด
ก. กฎกระทรวง ค. พระราชบัญญัติ
ข. ประกาศกระทรวง ง. พระราชกฤษฎีกา
ตอบ ก. กฎกระทรวง
- ข้อใด ไม่ใช่ การแบ่งส่วนราชการในสถาบัน
ก. สำนักงานผู้อำนวยการสถาบัน ค. ศูนย์
ข. สำนัก ง. กอง
ตอบ ง. กอง
มาตรา ๑๗ สถาบันอาจแบ่งส่วนราชการ ดังต่อไปนี้
(๑) สำนักงานผู้อำนวยการสถาบัน
(๒) วิทยาลัย
(๓) สำนัก
(๔) ศูนย์
สถาบันอาจให้มีส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าวิทยาลัยเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในมาตรา ๑๖ เป็นส่วนราชการของสถาบันอีกก็ได้
สำนักงานผู้อำนวยการสถาบันอาจแบ่งส่วนราชการเป็นฝ่ายหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าฝ่าย
วิทยาลัยอาจแบ่งส่วนราชการเป็นคณะวิชา ภาควิชา แผนก หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะวิชาหรือภาควิชา
สำนัก หรือศูนย์ อาจแบ่งส่วนราชการเป็นแผนกหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าแผนก
- การจัดตั้ง การรวม และการยุบเลิกสำนักงานผู้อำนวยการสถาบันวิทยาลัย สำนัก ศูนย์หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าวิทยาลัย ให้ทำเป็นกฎหมายใด
ก. ประกาศกระทรวง
ข. กฏกระทรวง
ค. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
ง. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ตอบ ง.ประกาศกระทรวงศึกษาธิการและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
- ข้อใดคือรายได้ของสถาบัน
ก. เงินผลประโยชน์ ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และค่าบริการต่างๆ ของสถาบัน
ข. เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้อุทิศให้แก่สถาบัน
ค. รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนและจากทรัพย์สินของสถาบัน
ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๒๐ นอกจากเงินที่กำหนดไว้ในงบประมาณแผ่นดิน สถาบันอาจมีรายได้ดังต่อไปนี้
(๑) เงินผลประโยชน์ ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และค่าบริการต่างๆ ของสถาบัน
(๒) เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้อุทิศให้แก่สถาบัน
(๓) รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนและจากทรัพย์สินของสถาบัน
(๔) รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้จากการใช้ที่ราชพัสดุ ซึ่งสถาบันปกครอง ดูแลหรือใช้ประโยชน์
(๕) เงินอุดหนุนจากราชการส่วนท้องถิ่นหรือเอกชน หรือองค์กรระหว่างประเทศหรือเงินอุดหนุนอื่นที่สถาบันได้รับเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการของสถาบัน
(๖) รายได้หรือผลประโยชน์อื่น
- คณะกรรมการสภาสถาบันในสถาบันแต่ละแห่ง มีจำนวนเท่าใด
ก. 14 คน ค. ไม่เกิน 14 คน
ข. ไม่เกิน 12 คน ง. ไม่เกิน 15 คน
มาตรา ๒๓ ให้มีคณะกรรมการสภาสถาบันในสถาบันแต่ละแห่ง จำนวนไม่เกินสิบสี่คนประกอบด้วย
(๑) นายกสภาสถาบัน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
(๒) กรรมการสภาสถาบันโดยตำแหน่ง ได้แก่ ผู้อำนวยการสถาบัน
(๓) กรรมการสภาสถาบันจำนวนสี่คน ซึ่งเลือกจากบุคคลที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเสนอ
(๔) กรรมการสภาสถาบันจำนวนสี่คน ซึ่งเลือกจากผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถาบันจำนวนสองคน และครูหรือคณาจารย์ประจำที่มิได้เป็นผู้บริหารจำนวนสองคน
(๕) กรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสี่คน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลภายนอกสถาบันโดยคำแนะนำของกรรมการสภาสถาบันตาม (๓) และ (๔) ในจำนวนนี้จะต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชนจำนวนหนึ่งคนและจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สถาบันหรือสถานศึกษาในสังกัดสถาบันนั้นตั้งอยู่จำนวนหนึ่งคน
- นายกสภาสถาบันและกรรมการสภาสถาบันมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 2 ปี ค. 4 ปี
ข. 3 ปี ง. 5 ปี
ตอบ ค. 4 ปี
- ข้อใด ไม่ใช่ อำนาจและหน้าที่ของสภาสถาบัน
ก. อนุมัติการให้ปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ข. ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ และดูแลระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบันหรือสถานประกอบการเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการอาชีวศึกษา
ค. อนุมัติแผนพัฒนาของสถาบันเกี่ยวกับการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพของสถาบันให้สอดคล้องกับนโยบายการศึกษาของชาติ
ง. ให้ความเห็นชอบในการกำหนดตรา เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ของสถาบัน
ตอบ ข. ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ และดูแลระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบันหรือสถานประกอบการเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการอาชีวศึกษา
(ข้อ ข เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา)
มาตรา ๒๕ สภาสถาบันมีอำนาจและหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการทั่วไปของสถาบัน และโดยเฉพาะให้มีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้(๑) อนุมัติแผนพัฒนาของสถาบันเกี่ยวกับการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพของสถาบันให้สอดคล้องกับนโยบายการศึกษาของชาติ
(๒) ออกข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศของสถาบันเกี่ยวกับการดำเนินการของสถาบัน
(๓) พิจารณาการจัดตั้ง การรวม และการยุบเลิกส่วนราชการของสถาบันตามมาตรา ๑๗ รวมทั้งการแบ่งหน่วยงานภายในของส่วนราชการดังกล่าว
(๔) อนุมัติการรับสถานศึกษาอื่นหรือสถานประกอบการเข้าสมทบและการยกเลิกการสมทบของสถานศึกษาอื่นหรือสถานประกอบการดังกล่าว
(๕) พิจารณาให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาของสถาบันให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่คณะกรรมการการอาชีวศึกษากำหนด
(๖) อนุมัติการให้ปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และประกาศนียบัตรวิชาชีพ
(๗) พิจารณาและให้ความเห็นชอบในการเข้าร่วมดำเนินการจัดตั้งศูนย์วิจัย ห้องทดลองหรือห้องปฏิบัติการเพื่อพัฒนาการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพกับสถานประกอบการหรือภาคเอกชนตามมาตรา ๕๓
(๘) กำกับมาตรฐานการศึกษา ควบคุมคุณภาพ ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาของสถาบันให้เป็นไปตามมาตรฐานการอาชีวศึกษาทุกระดับ
(๙) พิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งและถอดถอนศาสตราจารย์และศาสตราจารย์พิเศษ
(๑๐) พิจารณาเสนอแนะต่อรัฐมนตรีเพื่อแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้อำนวยการสถาบัน
(๑๑) แต่งตั้งและถอดถอนรองผู้อำนวยการสถาบัน ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบัน และอาจารย์พิเศษ
(๑๒) แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพื่อพิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องหนึ่งเรื่องใด หรือเพื่อมอบหมายให้ปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดอันอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของสภาสถาบัน
(๑๓) กำหนดนโยบายเกี่ยวกับการจัดหารายได้ ออกข้อบังคับและวางระเบียบเกี่ยวกับการบริหารการเงินและทรัพย์สินของสถาบัน
(๑๔) ให้ความเห็นชอบในการกำหนดตรา เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ของสถาบัน
(๑๕) ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันที่มิได้ระบุให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ใดโดยเฉพาะ
- ผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบการบริหารงานของสถาบันคือใคร
ก. อธิบดีสถาบัน ค. อธิการสถาบัน
ข. ผู้อำนวยการสถาบัน ง. รองผู้อำนวยการสถาบัน
ตอบ ข. ผู้อำนวยการสถาบัน
- ผู้อำนวยการสถาบันมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 2 ปี ค. 4 ปี
ข. 3 ปี ง. 5 ปี
ตอบ ค. 4 ปี
มาตรา ๒๙ ผู้อำนวยการสถาบันมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้
- ข้อใดคือคุณสมบัติของผู้อำนวยการสถาบันและรองผู้อำนวยการสถาบัน
ก. สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าชั้นปริญญาเอกหรือเทียบเท่าจากสถาบันอุดมศึกษา และได้ทำการสอนหรือมีประสบการณ์ด้านบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปีในสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบันหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่น
ข. ได้รับปริญญาชั้นใดชั้นหนึ่งหรือเทียบเท่าจากสถาบันอุดมศึกษา และได้ทำการสอนหรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปีในสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบัน หรือสถาบันอุดมศึกษาอื่น
ค. เคยดำรงตำแหน่งกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาอื่นมาแล้วรวมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- ข้อใดคืออำนาจและหน้าที่ของผู้อำนวยการสถาบัน
ก. บริหารกิจการของสถาบันให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศของทางราชการและของสถาบัน จรรยาบรรณวิชาชีพ รวมทั้งนโยบายและวัตถุประสงค์ของสถาบัน
ข. ควบคุมดูแลบุคลากร การเงิน การพัสดุ สถานที่ และทรัพย์สินอื่นของสถาบันให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศ ของทางราชการและของสถาบัน
ค. จัดทำแผนการดำเนินงาน แผนพัฒนาของสถาบัน งบประมาณประจำปี และตลอดจนติดตามการประเมินผลการดำเนินงานของสถาบัน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
- ข้อใด ไม่ใช่ ตำแหน่งทางวิชาการของคณาจารย์ประจำซึ่งสอนชั้นปริญญาในสถาบัน
ก. ครู ค. ศาสตราจารย์
ข. อาจารย์ ง. ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ตอบ ก. ครู
มาตรา ๓๘ คณาจารย์ประจำซึ่งสอนชั้นปริญญาในสถาบันมีตำแหน่งทางวิชาการ ดังต่อไปนี้
(๑) ศาสตราจารย์
(๒) รองศาสตราจารย์
(๓) ผู้ช่วยศาสตราจารย์
(๔) อาจารย์
- ตำแหน่งที่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากผู้ซึ่งเป็นหรือเคยเป็นอาจารย์พิเศษในวิชาที่ผู้นั้นมีความชำนาญเป็นพิเศษโดยคำแนะนำของสภาสถาบัน คือ
ก. ศาสตราจารย์ ค. รองศาสตราจารย์
ข. ศาสตราจารย์พิเศษ ง. ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ตอบ ข. ศาสตราจารย์พิเศษ
- ข้อใดใช้คำนำหน้าอักษรย่อได้ไม่ถูกต้อง
ก. ศาสตราจารย์ ใช้อักษรย่อ ศ. ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ใช้อักษรย่อ ผศ.
ข. รองศาสตราจารย์ ใช้อักษรย่อ รศ. ง. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ใช้อักษรย่อ ผศ. พิเศษ
ตอบ ง. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ใช้อักษรย่อ ผศ. พิเศษ ที่ถูก คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ใช้อักษรย่อ ผศ. (พิเศษ)
- การเรียกชื่อปริญญาในสาขาวิชา และการใช้อักษรย่อสำหรับสาขาวิชาให้ตราเป็นกฎหมายใด
ก. พระราชกฤษฎีกา ค. ประกาศกระทรวง
ข. พระราชบัญญัติ ง. กฎกระทรวง
ตอบ ก. พระราชกฤษฎีกา
- สถาบันต้องจัดระบบการจัดการให้เอื้ออำนวยแก่ผู้มีประสบการณ์ ผู้ผ่านการฝึกอบรมจากสถานประกอบการที่ได้รับการรับรอง ผู้เรียนที่สะสมผลการเรียนไว้ และผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ให้สามารถเทียบโอนผลการเรียนหรือประสบการณ์ด้านวิชาชีพเพื่อให้ได้คุณวุฒิการศึกษาในหลักสูตรต่างๆ ได้ อยู่ในมาตราใดของพ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551
ก. มาตรา 13 ค. มาตรา 50
ข. มาตรา 49 ง. มาตรา 53
ตอบ ค. มาตรา 50
- สถานประกอบการใดที่ประสงค์จะดำเนินการจัดการอาชีวศึกษา และการฝึกอบรมวิชาชีพ ให้ยื่นคำขอต่อใคร
ก. เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ค. คณะกรรมการอาชีวศึกษา
ข. รัฐมาตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ง. คณะกรรมการสภาสถาบัน
ตอบ ก. เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
- “กองทุนเพื่อพัฒนาการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ” ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ก. รายได้หรือผลประโยชน์อื่นของกองทุน
ข. ดอกผลและผลประโยชน์ที่เกิดจากกองทุน
ค. เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่สถานประกอบการหรือเอกชนมอบให้แก่กองทุน หรือที่มีผู้บริจาคหรืออุทิศให้แก่กองทุน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- เงินกองทุนเพื่อพัฒนาการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพให้ใช้จ่ายได้ เกี่ยวกับอะไร
ก. การให้กู้ยืมแก่ผู้สำเร็จการศึกษาอาชีวศึกษาเพื่อใช้จ่ายในการประกอบอาชีพโดยอิสระ
ข. การดำเนินงานและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพเครื่องมือ อุปกรณ์ อาคารสถานที่ หลักสูตร กิจกรรม มาตรฐานสถานศึกษาและรูปแบบการศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ และการพัฒนาบุคลากร
ค. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ.2551
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- ผู้ใดใช้ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ ครุยประจำตำแหน่ง เครื่องแบบ เครื่องหมาย หรือเครื่องแต่งกายของนักศึกษาโดยไม่มีสิทธิ มีโทษอย่างไร
ก. ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ข. ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ผู้ใดที่กระทำการต่อไปนี้แล้วต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก. ปลอม หรือทำเลียนแบบซึ่งตรา สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายของสถาบันไม่ว่าจะทำเป็นสีใดหรือทำด้วยวิธีใดๆ
ข. ใช้ตรา สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายของสถาบันปลอมหรือซึ่งทำเลียนแบบ
ค. ใช้ หรือทำให้ปรากฏซึ่งตรา สัญลักษณ์ เครื่องหมายของสถาบันที่วัตถุหรือสินค้าใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ภารกิจและนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
1. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้กำหนดยุทธศาสตร์ไว้จำนวนเท่าใด
ก. 5 ยุทธศาสตร์ 30 กลยุทธ์ ค. 6 ยุทธศาสตร์ 30 กลยุทธ์
ข. 5 ยุทธศาสตร์ 35 กลยุทธ์ ง. 6 ยุทธศาสตร์ 35 กลยุทธ์
ตอบ ง. 6 ยุทธศาสตร์ 35 กลยุทธ์
2. การพัฒนาการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพให้มีคุณภาพมาตรฐาน คือยุทธศาสตร์ที่เท่าใด
ก. ยุทธศาสตร์ที่ 5 ค. ยุทธศาสตร์ที่ 4
ข. ยุทธศาตร์ที่ 1 ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
ตอบ ข. ยุทธศาตร์ที่ 1
3. ข้อใด ไม่ใช่ กลยุทธ์ในการพัฒนาการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพให้มีคุณภาพมาตรฐาน
ก. พัฒนาศูนย์กำลังคนอาชีวศึกษา
ข. พัฒนาครูและบุคลากรอาชีวศึกษา
ค. เร่งรัดพัฒนาคุณภาพและสมรรถนะผู้เรียน
ง. พัฒนาสถานศึกษาและสถาบันการอาชีวศึกษาให้ได้มาตรฐาน มีความเป็นเลิศทางวิชาชีพ
ตอบ ก. พัฒนาศูนย์กำลังคนอาชีวศึกษา
4. สร้างเครือข่ายและส่งเสริมความร่วมมือ คือยุทธศาสตร์ที่เท่าใด
ก. ยุทธศาสตร์ที่ 4 ค. ยุทธศาสตร์ที่ 6
ข. ยุทธศาตร์ที่ 3 ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
ตอบ ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
5. ข้อใดคือกลยุทธ์ในการสร้างเครือข่ายและส่งเสริมความร่วมมือ
ก. พัฒนาฐานข้อมูลความร่วมมือ
ข. ส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือในการจัดอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพทั้งในและต่างประเทศ
ค. สร้างความเข้มแข็งในการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือในการจัดอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
6. พัฒนาระบบบริหารจัดการอาชีวศึกษา คือยุทธศาสตร์ที่เท่าใด
ก. ยุทธศาสตร์ที่ 4 ค. ยุทธศาสตร์ที่ 6
ข. ยุทธศาตร์ที่ 3 ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
ตอบ ข. ยุทธศาตร์ที่ 3
7. ข้อใด ไม่ใช่ กลยุทธ์ในการพัฒนาระบบบริหารจัดการอาชีวศึกษา
ก. จัดและพัฒนาโครงสร้างการบริหารงานให้เป็นไปตาม ก.ม.การอาชีวศึกษาและก.ม.อื่นที่เกี่ยวข้อง
ข. ประสาน ส่งเสริมและสนับสนุน การจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพของสถานศึกษาเอกชน สถานประกอบการและเครือข่าย
ค. พัฒนากฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ
ง. กระจายอำนาจการบริหารจัดการสู่สถานศึกษาและสถาบัน
ตอบ ข.ประสาน ส่งเสริมและสนับสนุน การจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพของสถานศึกษาเอกชน สถานประกอบการและเครือข่าย
8. ขยายโอกาสทางการศึกษาวิชาชีพและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต คือยุทธศาสตร์ที่เท่าใด
ก. ยุทธศาสตร์ที่ 4 ค. ยุทธศาสตร์ที่ 6
ข. ยุทธศาตร์ที่ 3 ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
ตอบ ก. ยุทธศาสตร์ที่ 4
9. ข้อใดคือกลยุทธ์ในการขยายโอกาสทางการศึกษาวิชาชีพและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ก. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในเขตชายแดนภาคใต้
ข. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในพื้นที่ชายแดน และเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ
ค. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพตามโครงการพระราชดำริ
ง. ส่งเสริมให้มีการสร้างรายได้ระหว่างเรียน
ตอบ ง.ส่งเสริมให้มีการสร้างรายได้ระหว่างเรียน
10. จัดอาชีวศึกษาเพื่อสร้างเสริมความมั่นคงของรัฐ คือยุทธศาสตร์ที่เท่าใด
ก. ยุทธศาสตร์ที่ 4 ค. ยุทธศาสตร์ที่ 5
ข. ยุทธศาตร์ที่ 6 ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
ตอบ ค. ยุทธศาสตร์ที่ 5
11. ข้อใดคือการจัดอาชีวศึกษาเพื่อสร้างเสริมความมั่นคงของรัฐ
ก. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดอาชีวศึกษาร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสร้างความเข้าใจอันดี
ข. ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้ประชาชนในการสร้างงานสร้างรายได้
ค. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในเขตชายแดนภาคใต้
ง. ถูกทั้ง ก และ ค
ตอบ ง. ถูกทั้ง ก และ ค
12. สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี คือยุทธศาสตร์ที่เท่าใด
ก. ยุทธศาสตร์ที่ 6 ค. ยุทธศาสตร์ที่ 5
ข. ยุทธศาตร์ที่ 1 ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
ตอบ ก. ยุทธศาสตร์ที่ 6
13. ข้อใด ไม่ใช่ กลยุทธ์ในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี
ก. พัฒนาระบบบริหารจัดการตามหลักเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐและธรรมาภิบาล
ข. พัฒนาระบบบริหารจัดการ เครือข่ายงานวิจัย และการจัดการความรู้อาชีวศึกษา ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ
ค. ส่งเสริมการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ไปใช้พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการและการเรียนการสอน
ง. ส่งเสริมให้นำความรู้ เทคโนโลยี สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรม ไปใช้พัฒนาอาชีพ จดสิทธิบัตร และพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์
ตอบ ก. พัฒนาระบบบริหารจัดการตามหลักเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐและธรรมาภิบาล










